09 FEB 2024 บทความผลิตภัณฑ์ 5 นาทีในการอ่าน 602 VIEWS

เหงือกอักเสบเกิดจากอะไร พร้อมวิธีป้องกันเหงือกอักเสบด้วยตัวเอง

เหงือกอักเสบ เกิดจากการทำความสะอาดช่องปากไม่ดีพอ ควรรีบป้องกันเหงือกอักเสบด้วยการบำรุงสุขภาพช่องปากให้ดี และเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงเหงือก

เหงือกสุขภาพดี ควรเป็นอย่างไร

เหงือกที่สุขภาพดีจะมีสีชมพูอ่อนหรือชมพูอมแสด เรียบเนียน แนบแน่นกับฟัน ไม่มีอาการบวมหรืออักเสบ ไม่มีรอยแตกหรือแหว่ง และจะไม่มีเลือดออกเมื่อแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน7

เหงือกอักเสบ เป็นอย่างไร

เหงือกอักเสบ เป็นอย่างไร

เหงือกอักเสบ (Gingivitis) คือ ภาวะที่เหงือกเกิดการอักเสบ โดยอาจเกิดจากการสะสมของคราบพลัค (Plaque) ซึ่งเป็นคราบจุลินทรีย์ที่เกาะติดอยู่ที่ผิวฟันและซอกฟัน หากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี คราบพลัคจะสะสมมากขึ้นและแข็งตัวกลายเป็นหินปูน (Tartar) ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้นได้16 โดยเหงือกอักเสบสามารถสังเกตได้จากอาการ ดังนี้

  • เหงือกบวมแดง 
  • เหงือกมีเลือดออกง่ายโดยเฉพาะขณะแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน 
  • เหงือกร่น 
  • เหงือกเจ็บหรือปวด 
  • มีกลิ่นปาก

เหงือกอักเสบ เหงือกบวม มีกี่ระยะ

เหงือกอักเสบ เหงือกบวม มีกี่ระยะ

อาการของโรคเหงือกอักเสบแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะโรคเหงือกอักเสบ และระยะโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ ซึ่งจะมีอาการและความรุนแรงที่แตกต่างกัน ดังนี้5

ระยะแรก โรคเหงือกอักเสบ

เป็นอาการในระยะแรกที่จะเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของฟันและเหงือก โดยจะมีอาการเลือดออกในขณะที่แปรงฟันหรือการใช้ไหมขัดฟัน เหงือกบวมแดง หรือมีอาการปวดที่เหงือก ซึ่งในระยะนี้สามารถหายเองได้ด้วยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี ด้วยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยกำจัดคราบพลัค และแบคทีเรียสะสมในช่องปาก เพื่อให้ช่องปากสะอาด ทำอย่างสม่ำเสมอ เท่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการโรคเหงือกอักเสบแล้ว แต่หากอาการไม่ดีขึ้นก็ควรจะไปพบทันตแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา

ระยะที่สอง โรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบ

โรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบเป็นอาการที่อาจเกิดตามมาเมื่ออาการโรคเหงือกอักเสบถูกปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน จนอาจทำให้เกิดร่องลึกในฟันหรือเหงือกจากการย่นหดของเนื้อเยื่อ อาจทำให้เนื้อเยื่อที่ช่วยยึดเหงือกและฟันได้รับความเสียหายจนอาจทำให้ต้องเสียฟันไปในท้ายที่สุด เมื่อเป็นโรคเยื่อหุ้มฟันอักเสบจึงควรรีบเข้าพบทันตแพทย์เพื่อรักษาทันที

ปัญหาเหงือก เกิดจากอะไร?

ปัญหาเหงือก เกิดจากอะไร?

จากการศึกษาพบว่า ปัญหาเหงือกอักเสบหรือเหงือกบวมสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยหลากหลายอย่าง ดังนี้

  • การสะสมของคราบพลัค เป็นคราบจุลินทรีย์ที่เกาะติดอยู่ที่ผิวฟันและซอกฟัน หากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี คราบพลัคจะสะสมมากขึ้นและแข็งตัวกลายเป็นหินปูน (Tartar) ซึ่งจะยิ่งทำให้เหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น
  • การแปรงฟันที่ไม่ทั่วถึง ทั้งในการแปรงฟันที่ไม่ถูกวิธี หรือในส่วนที่เข้าถึงยากและเกิดการสะสมของแบคทีเรียได้ง่ายอย่างบริเวณฟันคุดที่อาจเกิดเหงือกบวมได้ง่าย
  • การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพเหงือกและฟันหลายประการ เช่น ทำให้เหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคปริทันต์อักเสบ และทำให้ฟันเหลือง
  • การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูง การกินอาหารที่มีน้ำตาลสูงบ่อยๆ จะเป็นแหล่งอาหารของแบคทีเรียในคราบพลัค ทำให้คราบพลัคเจริญเติบโตและสะสมมากขึ้น
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม ปัจจัยทางพันธุกรรมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกอักเสบ หรือโรคปริทันต์อักเสบ
  • การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาคุมกำเนิด ยารักษาโรคเบาหวาน อาจส่งผลต่อสุขภาพเหงือกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกอักเสบ
  • ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคเอดส์ โรคหัวใจ อาจส่งผลต่อสุขภาพเหงือกและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเหงือกอักเสบ

โดยในทุกปัจจัยการสะสมของแบคทีเรียและคราบพลัคจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหาเหงือกได้ ดังนั้นการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมในการต้านแบคทีเรีย และสร้างสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีหรือไมโครไบโอมในช่องปากอย่าง มะนาว สะเดา ขิง ทีทรี ยูคาลิปตัส การบูร และใบโหระพาจึงสำคัญมากต่อการต้านปัญหาเหงือกอักเสบ1,5,6,7

การป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบ

การป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบ

ปัญหาเหงือกอักเสบสามารถรักษาได้ ทั้งวิธีการป้องกันเหงือกอักเสบด้วยตัวเอง และการดูแลรักษาสุขภาพช่องปากโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้

ใช้ยาสีฟันสมุนไพร

วิธีการป้องกันปัญหาเหงือกอักเสบที่ดีและง่ายที่สุดนอกจากจะเป็นการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอแล้ว การเลือกยาสีฟันที่มีคุณภาพ มีส่วนช่วยต้านแบคทีเรียและคราบพลัค สร้างสมดุลของจุลินทรีย์ที่ดีหรือไมโครไบโอมในช่องปาก โดยไม่ทำลายผิวเคลือบฟันยังเป็นสิ่งที่สำคัญมากด้วย โดยยาสีฟันสมุนไพรที่ดี ควรมีส่วนผสมของสมุนไพร 11 ชนิดที่จะมีส่วนช่วย ดังนี้1,2,3,6

  1. สเปียร์มิ้นท์ ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น
  2. ใบโหระพา ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
  3. กานพลู ช่วยลดกลิ่นปาก ป้องกันฟันผุ
  4. การบูร ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
  5. ทีทรี ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและกลิ่นปาก
  6. ขิง ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
  7. ยูคาลิปตัส ช่วยลดการสะสมของคราบพลัค
  8. ชะเอมเทศ ช่วยให้กลิ่นสดชื่นและช่วยป้องกันฟันผุ
  9. เปปเปอร์มิ้นท์ ช่วยให้ลมหายใจสดชื่น
  10. สะเดา ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย
  11. มะนาว ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย และช่วยทำความสะอาดฟัน

การดูแลรักษาช่องปากโดยทันตแพทย์

การดูแลรักษาช่องปากโดยทันตแพทย์ เป็นอีกวิธีในการรักษาเหงือกบวมให้แข็งแรงไม่อักเสบ โดยวิธีการดูแลรักษาช่องปากโดยทันตแพทย์จะมีดังนี้1,3,6

  • การตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำ ทันตแพทย์จะตรวจดูความสะอาดของฟัน สภาพของเหงือก ฟันผุ โรคปริทันต์อักเสบ และปัญหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง หากพบปัญหาสุขภาพช่องปาก ทันตแพทย์จะให้การวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
  • การขูดหินปูน เป็นวิธีการกำจัดหินปูนออกจากฟันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้อุปกรณ์เฉพาะของแพทย์ในการขูดคราบพลัคหรือหินปูนออกไป เพื่อที่จะให้โอกาสช่องปากได้ฟื้นฟู

กลุ่มเสี่ยงที่อาจมีปัญหาเหงือกอักเสบได้

ปัญหาเหงือกอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้กับคนหลายกลุ่ม ดังนี้5

  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • ผู้ที่รักษาความสะอาดในช่องปากได้ไม่ดี หรือไม่สม่ำเสมอ
  • ผู้ป่วยที่ต้องกินยารักษาอาการความดันหรือเบาหวานเรื้อรัง

การป้องกันเหงือกอักเสบ

ปัญหาเหงือกอักเสบสามารถป้องกันได้ ดังนี้1,3,6

  • แปรงฟันอย่างถูกวิธีวันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 2 นาที โดยแปรงฟันให้ทั่วถึงทั้งซี่ฟัน เน้นบริเวณซอกฟันและขอบเหงือกให้มาก
  • เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพร มีส่วนช่วยในการลดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น มะนาว สะเดา ขิง ทีทรี ยูคาลิปตัส การบูร และใบโหระพา
  • ใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง เพื่อทำความสะอาดเศษอาหารที่ติดอยู่บริเวณซอกฟัน
  • พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน

สรุป

เหงือกอักเสบ คือภาวะที่เหงือกเกิดการอักเสบ บวม มักเกิดจากการสะสมของคราบพลัค ซึ่งเป็นคราบจุลินทรีย์ที่เกาะติดอยู่ที่ผิวฟันและซอกฟัน โดยจะมีอาการ เหงือกบวมแดง เหงือกมีเลือดออกง่าย เหงือกร่น พร้อมกับกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์ หากปล่อยไว้นาน เหงือกอักเสบอาจลุกลามเป็นโรคปริทันต์อักเสบ ซึ่งอาจทำให้สูญเสียฟันได้ ดังนั้นจึงควรป้องกันเหงือกอักเสบด้วยตนเองโดยการแปรงฟันอย่างถูกวิธี สม่ำเสมอ และเลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ช่วยลดคราบพลัคได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Reference

  1. Newman, T. Causes and Treatment of Gingivitis. medicalnewstoday.com. Publish 30 November 2023. Retrieved 17 january 2024.

  2. Plus Dental Clinic. เหงือกบวมทำไงดี? รวมวิธีรักษาอาการโรคเหงือกอักเสบด้วยตัวเอง. Plusdentalclinic.com. Publish (no date). Retrieved 17 january 2024.

  3. วิมลกาญจน์ ดำรงรัตน์นุวงศ์. โรคเหงือกอักเสบ. Medparkhospital.com. Publish 26 September 2022. Publish (no date). Retrieved 17 january 2024.

  4. Murakami S, Mealey BL, Mariotti A, Chapple ILC. Dental plaque–induced gingival conditions. J Periodontol. 2018; 89(Suppl 1): S17–S27. Publish (no date). Retrieved 17 january 2024.

  5. BIDC. โรคเหงือกหรือโรคปริทันต์ เหงือกอักเสบ เกิดจากอะไร?. Thailanddentalclinic.com. Publish (no date). Retrieved 17 january 2024.

  6. Frisbee, E. (2021, July 30). Gingivitis and Periodontal Disease (Gum Disease). webmd.com. Publish 30 July 2021. Retrieved January 17, 2024.

  7. พญาไท 3. เหงือกอักเสบบวมแดงต้องรีบรักษา เพื่อแก้ปัญหาก่อนสูญเสียฟัน. webmd.com. Publish 01 December 2021. Retrieved January 17, 2024.